การเขียนบทความ aBRIDGEd
aBRIDGEd คือบทความทางเศรษฐศาสตร์ขนาดสั้น ที่มีพื้นฐานมาจาก
- บทความวิจัยฉบับเต็ม
- การศึกษาวิเคราะห์เชิงลึก โดยอาจจะเป็นงานศึกษาเพื่อตอบโจทย์เชิงนโยบาย หรือการนำเสนอข้อเท็จจริงจากฐานข้อมูลใหม่ ๆ (stylized facts) หรือ
- การสังเคราะห์องค์ความรู้
aBRIDGEd มุ่งเน้นการเป็นช่องทางเผยแพร่งานวิจัยเชิงลึกจากทุกสาขาของเศรษฐศาสตร์ในรูปแบบบทความฉบับย่อที่กระชับ ใช้ภาษาไทยที่อ่านเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ผู้อ่านจับประเด็นได้อย่างรวดเร็วและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้อ่านได้หลากหลายในวงกว้างขึ้น เช่น ผู้ดำเนินนโยบาย นักวิชาการ นักศึกษา แต่ยังคงใช้การเขียนในรูปแบบบทความวิชาการที่มีการอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์หรืองานศึกษาอื่น มากกว่าเพียงการแสดงความคิดเห็น
บทความ aBRIDGEd ควรสรุปใจความสำคัญของงานวิจัยได้อย่างครบถ้วน พร้อมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับผลจากการศึกษา ทั้งนี้ หากองค์ความรู้จากบทความยังไม่เพียงพอต่อการนำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้อง ควรเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบงานศึกษาหรือวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ต่อไป
แนวทางการเขียนและส่วนประกอบของ aBRIDGEd
สถาบันวิจัยฯ จะเป็นผู้จัดทำ format ตามรูปแบบของ aBRIDGEd เอง โดยขอให้ผู้เขียนมีส่วนประกอบ เนื้อหา และแนวการเขียนดังนี้
ชื่อเรื่อง
แนะนำให้ตั้งชื่อที่ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน ตรงกับเนื้อหาของบทความและไม่กว้างเกินไป
คำโปรยสรุปใจความสำคัญสั้น ๆ ในหนึ่งประโยค
กระชับ ไม่ควรเกิน 1 บรรทัด
บทคัดย่อ
บทคัดย่อสั้น ๆ ขนาด 1 ย่อหน้าเพื่อเกริ่นนำบทความ อาจมีการปรับแก้จากบรรณาธิการตามเหมาะสม
เนื้อหา
- โดยทั่วไปความยาวประมาณ 4–8 หน้า หรือ 2,500–4,000 คำ
- กล่าวถึงที่มาที่ไปหรือความสำคัญของการศึกษา โดยเชื่อมโยงกับประเด็นทางเศรษฐกิจหรือนโยบายที่กำลังได้รับความสนใจในปัจจุบัน อธิบายประเด็นที่ได้ทำการศึกษาและ contribution หลัก ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษา literature review ข้อมูลที่ใช้ วิธีการศึกษา แบบจำลอง ข้อจำกัดของการศึกษา และผลการศึกษาหลักที่สำคัญ การอ้างอิงงานเขียนอื่นใช้ตามหลักวิชาการ
- แนะนำให้เขียนแต่ละย่อหน้าไม่ยาวเกินไป หรือแบ่งเป็นย่อหน้าย่อย ๆ จะอ่านง่ายกว่า แต่ละย่อหน้าควรมีใจความสำคัญเพียงใจความเดียว และการเขียนใจความสำคัญในประโยคแรกสุดจะทำให้ผู้อ่านจับประเด็นได้ง่ายขึ้น
- ควรใช้คำอธิบายที่ไม่ยากเกินไปนัก หรือหากจำเป็น ก็ควรมีส่วนที่อธิบายเนื้อหายาก ๆ ในลักษณะที่คนทั่วไปเข้าใจได้
- ถ้างานเขียนเป็นการสรุปงานเชิงวิชาการชิ้นอื่น เช่น PIER Discussion Paper แนะนำให้อ้างอิงไปยังบทความฉบับเต็มในเนื้อหาบทความด้วย เช่น บทความนี้สรุปจากงานวิจัยฉบับเต็ม เรื่อง …
- หลีกเลี่ยงการใช้สมการคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนหรือแสดงผลที่คนทั่วไปเข้าใจได้ยาก หากต้องการใส่ขอให้เป็นแบบสรุปเป็นรูป ตารางแบบง่าย หรือคำพูดที่เข้าใจได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ดี สามารถใช้รูปหรือตารางเดิมที่มีอยู่แล้วจากงานวิจัยฉบับเต็มได้ แต่ควรมีคำอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจตัวเลขในตารางดังกล่าว
- หัวข้อย่อย: aBRIDGEd เป็นบทความฉบับย่อที่ไม่ทางการเท่า PIER Discussion Paper การตั้งชื่อหัวข้อย่อย ๆ จึงแนะนำให้ใช้คำที่ดึงดูดความสนใจและสื่อต่อเนื้อหาในส่วนนั้น มากกว่าการใช้หัวข้อทางการอย่าง “ข้อมูลที่ใช้” “วิธีการศึกษา” “ผลการศึกษา”
- รูปภาพและตาราง: แนะนำให้ใส่รูปภาพ กราฟ หรือตารางสรุปที่จะช่วยดึงดูดและให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น โดยขอให้ใส่ชื่อและที่มาด้วย หากผู้เขียนทำขึ้นเองสามารถใช้ที่มาเป็น คำนวณโดย(คณะ)ผู้เขียน สรุปโดยผู้เขียน เป็นต้น และควรอ้างอิงถึงรูปหรือตารางที่ใส่เข้าไปในตัวเนื้อหาบทความด้วย คำอธิบายของรูปภาพและตารางอ่านง่าย ตัวอักษรไม่เล็กเกินไป ภาพมี resolution สูงพอที่จะขยายแล้วไม่แตก โดยสามารถส่งรูปหรือตารางต้นฉบับมาให้ได้ในรูปแบบไฟล์ภาพหรือ PowerPoint
ข้อสรุป และ/หรือ นัยสำคัญเชิงนโยบาย
กล่าวถึงข้อสรุปที่ได้จากการศึกษาและนัยสำคัญเชิงนโยบายอย่างน้อย 1–2 ประเด็น โดยข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต้องเกี่ยวกับหัวข้อที่ศึกษา สัมพันธ์และมีพื้นฐานมาจากผลหรือวิธีการศึกษาในบทความ และไม่กว้างเกินกว่าขอบเขตงานวิจัย ทั้งนี้ หากไม่มีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้อง ควรเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับการออกแบบงานศึกษา หรือวิธีการเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ ต่อไป
เอกสารอ้างอิง
ใส่เฉพาะงานที่มีการอ้างถึงในเนื้อหา
โดยงานเขียน aBRIDGEd จะใช้วิธีการอ้างอิงเอกสารในรูปแบบของ BiBTeX โดยใช้รูปแบบที่ถูกต้องตาม APA guideline โดยขอให้ผู้เขียนช่วย
- ใส่รายละเอียดเอกสารที่ต้องการอ้างอิงลงในไฟล์ BiBTeX หรือใส่เอกสารอ้างอิงในรูปของ BiBTeX ลงในหน้าสุดท้ายของบทความ (ที่เขียนใน MS Word)
- อ้างอิงในเอกสารในบทความ (in-text citation) ให้ถูกต้องตามหลักการของ BiBTeX โดยสามารถศึกษาวิธีการอ้างอิงเอกสารได้ที่หน้าการอ้างอิงเอกสาร
กล่องข้อความ (Box) และภาคผนวก
มีได้เฉพาะกรณีที่มีความจำเป็น
Endnote
ใส่เท่าที่จำเป็น
รูปภาพประกอบบทความ
เลือกจาก Shutterstock หรือใช้รูปที่จัดทำขึ้นเองหรือรูปที่มีอยู่แล้วได้ โดยขอให้เลือกหลังจากบทความได้รับการพิจารณาจากทีมบรรณาธิการเรียบร้อยแล้ว
Tags
เลือก keywords 3 คำที่แสดงถึง main idea ของบทความเป็นภาษาอังกฤษ
Topics
เลือก 1–3 topics จาก:
- Economic Theory
- History of Economic Thought
- Econometrics
- Game Theory
- Microeconomics
- Behavioral Economics
- Macroeconomics
- Monetary Economics
- Economic History
- Development
- Productivity and Technological Change
- Political Economy
- International Trade
- International Finance
- Financial Market and Asset Pricing
- Financial Institutions
- Corporate Finance
- Public Economics
- Health Economics
- Agricultural and Natural Resource Economics
- Environmental and Ecological Economics
- Education Economics
- Welfare Economics
- Labor and Demographic Economics
- Law and Economics
- Industrial Organization
- Business Administration and Business Economics
- Urban, Rural, Regional, Real Estate, and Transportation Economics
- Digital Economy
- Tourism Economics
- Others
ข้อควรระวัง
- ความแตกต่างระหว่าง correlation และ causation: การที่ตัวแปรสองตัวมีความสัมพันธ์กันเชิงบวก ไม่ได้แปลว่าเป็นเหตุเป็นผลกัน
- ไม่ overclaim กลุ่มตัวอย่าง วิธีการศึกษา ผลการศึกษา และนัยเชิงนโยบาย
- หากใช้กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก จำกัดเฉพาะบางกลุ่มย่อย หรือไม่ได้สุ่มให้เป็น national representative ไม่ควรอ้างว่าเป็นผลระดับประเทศ เช่น การศึกษาเกษตรกรปลูกอ้อยจากเพียง 3 จังหวัดไม่ควรเขียนว่ากำลังวัดผล “เกษตรกรของไทย”
- การตั้งชื่อหัวข้อและประโยคสรุปใจความสำคัญต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ทำ เช่น หากทำเฉพาะนโยบายที่ช่วยคนตกงาน ก็ไม่ควรใช้คำว่านโยบายตลาดแรงงาน ซึ่งมีความหมายกว้างกว่า
- contribution เน้น facts & integrity ไม่ overclaim เพื่อนำไปผลักดันนโยบายบางอย่าง
- เขียนหัวข้อ วัตถุประสงค์ของการศึกษา วิธีการศึกษา ผลการศึกษา และนัยเชิงนโยบาย อย่างครบถ้วน ชัดเจน และสอดคล้องกัน เช่น หากใช้คำว่า “ถอดบทเรียน” ก็ควรเขียนให้ชัดเจนว่า outcome ของบทเรียนที่ต้องการศึกษาคืออะไร
- การอ้างอิงวรรณกรรมควรมีความครอบคลุม ไม่ควรอ้างอิงแค่ 1-2 papers ซึ่งอาจจะไม่ใช่ key papers ใน area นั้น ๆ (สามารถดูได้จาก Google Scholar) หากหัวข้อที่เขียนเคยมีงานของ PIER ที่เกี่ยวข้องออกมาก่อนหน้านี้ ควรอ้างอิงถึงงานเหล่านั้น และอธิบายว่ามี contribution เพิ่มเติมอย่างไร
คำแนะนำในการเขียน
- หลีกเลี่ยงการใช้ภาษาไทยแทนคำภาษาอังกฤษที่แปลมาแบบตรงตัว หรือการใช้ประโยคภาษาไทยที่มีโครงสร้างแบบภาษาอังกฤษ หากเป็นไปได้อาจหาคำภาษาไทยที่สามารถสะท้อนความหมายเดียวกันได้ เช่น ใช้ “การศึกษาต่อในระบบโรงเรียน” แทนคำว่า “การคงอยู่ในระบบโรงเรียน” และใช้ “ระบบจะดำรงอยู่ได้ หาก…” แทนประโยค “การดำรงอยู่ของระบบจะขึ้นอยู่กับ…” เป็นต้น
- การใช้ตัวอักษรย่อ แนะนำให้ใส่ชื่อเต็มครั้งแรกหนึ่งครั้งก่อนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (หากมี) แล้วค่อยใช้ตัวอักษรย่อในจุดต่อๆ ไป เช่น “หรือนโยบายดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (Macroprudential policy: MaPP) เพื่อจัดการความเสี่ยง... การใช้ MaPP เข้ามาดูแลความเสี่ยงในภาคการเงิน...”
- การอธิบายสัดส่วนควรหลีกเลี่ยงการใช้ x%:y% เช่น
ประกอบด้วย A และ B ในสัดส่วน x%:y%
ควรอธิบายเป็นA คิดเป็น x% ในขณะที่ B มี y%
เป็นต้น - ถ้ามีการใส่ link URL เข้าไปในบทความ รบกวนตรวจสอบว่า link ดังกล่าวยังสามารถเข้าใช้งานได้หรือไม่
- แนะนำให้เขียนแบบ consistent เช่น การใช้ พ.ศ. หรือ ค.ศ. อันใดอันหนึ่งตลอดทั้งบทความ (ไม่รวม reference)
- อ่านหลักการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสะกดคำได้ที่หน้านี้